กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือ บริษัท นิปปอนเพนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ต่อเนื่อง ผลิตช่างสีรถยนต์ทำงานอย่างมีมาตรฐาน ทันเทคโนโลยี 4.0
นางสาวบุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ช่างสีรถยนต์ เป็นอีกอาชีพที่สถานประกอยกิจการรับซ่อมรถยนต์ มีความต้องการช่างฝีมืออย่างต่อเนื่อง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการยกระดับทักษะฝีมือให้แก่แรงงาน เพื่อให้เป็นแรงงานที่มีคุณภาพ โดยร่วมมือกับบริษัท นิปปอนเพนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสีพ่นรถยนต์ชั้นนำ ผลักดันและผลิตช่างสีรถยนต์คุณภาพที่มีทักษะความเชี่ยวชาญได้มาตรฐาน ให้มีจำนวนช่างที่เพียงพอต่อความต้องการในตลาดอาชีพนี้และสร้างหลักประกันด้านรายได้ที่มั่นคง สอดรับกับนโยบายของนายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ที่เน้นย้ำถึงการพัฒนาทักษะแรงงานให้มีศักยภาพสูงขึ้น สุดท้ายคือต้องมีงานทำและรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในปี 2566 วางแผนผลิตช่างสีรถยนต์อย่างต่อเนื่อง ในสาขาการพ่นซ่อมสีรถยนต์อัจฉริยะระบบซ่อมด่วน และสาขาอื่นๆ ตามความต้องการของแรงงาน และสถานประกอบกิจการ จำนวน 12 จังหวัด ได้แก่ สมุทรปราการ สุพรรณบุรี ชลบุรี ราชบุรี นครราชสีมา ขอนแก่น อุบลราชธานี นครสรรค์ พิษณุโลก ลำปาง สุราษฎร์ธานี และสงขลา เป้าหมายดำเนินการกว่า 200 คน
นางสาวบุปผา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาในปี 2565 ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตรการพ่นซ่อมสีรถยนต์อัจฉริยะระบบซ่อมด่วนไปแล้วในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี สงขลา ราชบุรี สุพรรณบุรี นครสวรรค์ นครราชสีมา สมุทรปราการ ลำพูน และนครพนม มีผู้ผ่านการฝึกอบรมแล้วจำนวน 210 คน นอกจากร่วมกันพัฒนาทักษะแก่แรงงานทั่วไปและช่างฝีมือที่ทำงานในสถานประกอบกิจการด้านช่างซ่อมและพ่นสีรถยนต์แล้ว บริษัทยังให้การสนับสนุนทั้งวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญ วัสดุฝึกอบรม และมอบอุปกรณ์ผลิตภัณฑ์สีรถยนต์เพื่อใช้ในการแข่งขันฝีมือแรงงานแห่งชาติ ครั้งที่ 29 อีกด้วย
“ความร่วมมือนี้ถือเป็นนิมิตรหมายอันดีในการผนึกกำลังที่จะพัฒนาช่างในสถานประกอบกิจการและแรงงานใหม่ให้มีความรู้ ความสามารถ และฝึกทักษะช่างสีรถยนต์สำหรับการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพให้ได้มาตรฐาน สอดคล้องกับความต้องการตลาดแรงงาน ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี รองรับการขยายตัวของระบบเศรษฐกิจในอนาคต และการเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ผู้สนใจสามารถสมัครฝึกอบรมได้ที่ สถาบันและสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานทั้ง 12 แห่งข้างต้น หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4” นางสาวบุปผา กล่าวทิ้งท้าย