
“ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี” บริษัทร่วมทุน“บี.กริม เพาเวอร์”และ “ยูนิเวนเจอร์”ซื้อหุ้น100%ใน “อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น” เข้าถือหุ้น 3 โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม 360 เมกะวัตต์ เสริมศักยภาพการเติบโต ตอกย้ำผู้นำการผลิตไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือBGRIMและ นายกำพล ปุญโสณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน)หรือUVเปิดเผยว่าบริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด หรือUVBGPบริษัทร่วมทุนของBGRIMและUVซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน45%และ55%ตามลำดับ อยู่ระหว่างการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของ บริษัท อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น จำกัด หรือE-COGENซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือEPเพื่อให้ได้มาซึ่งการถือหุ้น100%ในบริษัท เอสเอสยูที จำกัด หรือSSUTและ 74.5-100%ในบริษัท พีพีทีซี จำกัด หรือPPTCซึ่งเป็นเจ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม (Combined Cycle Cogeneration Power Plants)รวมทั้งสิ้น3โครงการ กำลังการผลิต360เมกะวัตต์ ทุกโครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการละ90เมกะวัตต์กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นระยะเวลา25ปี และจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม โดยคาดการณ์ว่าการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของUVBGPในE-COGENจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี2564
โดยSSUTเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม2โครงการ รวมกำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า240เมกะวัตต์ และไอน้ำ60ตัน/ชั่วโมง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู ซึ่งเริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ เมื่อเดือนธันวาคม2559 และPPTCเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม1โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งไฟฟ้า120เมกะวัตต์ และไอน้ำ30ตัน/ชั่วโมง ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนมีนาคม2559
ทั้งนี้ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ บีจีพี จำกัด เป็นการร่วมมือกันระหว่างBGRIMและUVในการร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานที่สนับสนุนธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการลงทุนอื่นอันครอบคลุมโครงการพลังงานในรูปแบบต่างๆ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา โครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ติดตั้งบนทุ่นลอยนํ้า โรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน บริการEnergy Solutionและโครงการสมาร์ทกริด โดยตั้งเป้าขยายกำลังผลิตไฟฟ้าสู่500เมกะวัตต์ภายในปี2568
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่าการเข้าลงทุนของUVBGPในSSUTและPPTCสะท้อนหลักการดำเนินธุรกิจโดยเน้นถึงความร่วมมือกัน (partnership) ที่ยึดมั่นมาตลอดของ บี.กริม รวมถึงความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมามากกว่า25ปี และยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขยายธุรกิจและการให้บริการด้านสาธารณูปโภคแบบครบวงจรของ บี.กริม เพาเวอร์ โดยจะใช้หลักการความเป็นมืออาชีพ(professionalism)ในการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของโรงไฟฟ้าทั้ง3โครงการนี้อย่างต่อเนื่องในอนาคตด้วย
นายกำพล ปุญโสณี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ยูนิเวนเจอร์ จำกัด(มหาชน)กล่าวว่าการเข้าลงทุน ของUVBGPในSSUTและPPTCสอดคล้องกับกลยุทธ์การปรับโครงสร้างและสร้างความสมดุลในการลงทุนของบริษัทฯ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลักในปัจจุบัน โดยการลงทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้ฐานรายได้และกำไรของบริษัทเติบโตขึ้น จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวที่มีอยู่ และโอกาสในการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำที่สามารถรองรับลูกค้ารายใหม่ได้ในอนาคต ทำให้บริษัทมีแหล่งรายได้ที่มีความสม่ำเสมอ(Recurring Income)และต่อเนื่องในระยะยาว
ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม50โครงการ กำลังผลิตติดตั้งรวม 2,894 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้าการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น7,200เมกะวัตต์ในปี2568 และ10,000เมกะวัตต์ภายในปี2573ด้วยเป้าหมายรายได้กว่า100,000ล้านบาท คงการเป็นผู้นำด้านบริษัทผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าชั้นนำของโลก พร้อมกับการกำหนดเป้าหมายระยะยาวที่สำคัญ คือ การก้าวสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือNet-Zero Carbon Emissionsได้ภายในปี2573(ค.ศ.2050)ตามวิสัยทัศน์ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่มุ่งสร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี(Empowering the World Compassionately)โดยยึดหลักการดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคม พร้อมเติบโตเคียงคู่ไปกับประเทศไทย
