
บี.กริม เพาเวอร์โชว์กำไรสูงสุดไตรมาส2พุ่ง56.5%ยอดขายลูกค้าอุตสาหกรรมโต เดินหน้า7ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนองค์กร–ลุยCODโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานบี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด(มหาชน)หรือBGRIMเปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาสที่2/2564มีกำไรสุทธิ ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 1,022 ล้านบาท หากไม่รวมกำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง กำไรสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่1,011ล้านบาท เติบโต50%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเติบโต56.5%จากไตรมาสก่อนหน้านี้ ขณะที่EBITDAเพิ่มขึ้นสู่ 3,524 ล้านบาท เติบโต 9.4%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยมีปัจจัยสำคัญจากปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมในประเทศไทยเพิ่มขึ้น47.4%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่831กิกะวัตต์-ชั่วโมง จากหลายกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมหลัก โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์,ยางรถยนต์,กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และกลุ่มก๊าซอุตสาหกรรม ควบคู่กับการเชื่อมเข้าระบบของลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า21.2เมกะวัตต์ ในช่วงไตรมาส 2/2564 หรือ 31.5 เมกะวัตต์ ในครึ่งปีแรก จากเป้าหมายไม่ต่ำกว่า40เมกะวัตต์ในปีนี้
นอกจากนี้ กำไรสุทธิจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ยังเป็นผลจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์(COD)ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในกัมพูชาเมื่อเดือนธันวาคม2563และการเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าบริษัท อมตะ บี. กริม เพาเวอร์ (ระยอง)1จำกัด (ABPR1)และ บริษัท อมตะ บี. กริม เพาเวอร์ (ระยอง)2จำกัด (ABPR2)ในช่วงครึ่งหลังของปี2563รวมถึงประสิทธิภาพในการควบคุมค่าใช้จ่าย ที่ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง17.6%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ราคาก๊าซธรรมชาติได้ปรับตัวลดลง8.9%จากช่วงเดียวกันของปีก่อนด้วย
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด บี.กริม เพาเวอร์ ได้ประกาศ 7 ยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนองค์กรในอนาคต เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่มุ่งสร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี (Empowering the World Compassionately)เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคมในรูปแบบของSustainable Utility Solution Providerด้วยการผลิตพลังงานที่มีคุณภาพสูงและบริการแบบครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ส่วนความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเตรียมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปีนี้ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมบ่อทอง วินด์ฟาร์ม 1&2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 16 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดมุกดาหาร มีกำหนดการCODในเดือนสิงหาคม2564
ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้วรวม 48 โครงการ โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตเติบโตจาก 3,058 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2563 เป็นมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าไม่ต่ำกว่า 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568 และมุ่งสู่ 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 ด้วยมีเป้าหมายรายได้ต่อปีกว่า 100,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บี.กริม เพาเวอร์ ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลที่0.15บาทต่อหุ้น สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกของปี2564โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 26สิงหาคม2564และวันที่จ่ายปันผล10กันยายน2564
